บทความนี้ได้รับการตรวจสอบทางการแพทย์โดย Dr. Gilbert C. Vilela, PSB of Cardiology | President, Philippine Heart Association 2022 | Department of Education, Philippine Heart Center
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ระบุว่าการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองมีหลักการคล้ายคลึงกันในการควบคุมปัจจัยเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ มากถึง 80% ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อช่วยจัดการความเสี่ยงของคุณ
วิธีลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองมีดังนี้
การอยู่เฉยๆ นานๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บมากมาย เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ซึ่งล้วนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ทั้งสิ้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมงครึ่ง หรือวันละ 30 นาที เป็นเวลา 5 วัน จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
อยู่ห่างจากไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวซึ่งก่อให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดแดงได้
ลดปริมาณเกลือ ผู้ที่บริโภคเกลือน้อยกว่า 5 กรัมทุกวันมีความดันโลหิตต่ำและมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจตีบ และโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ น้อยกว่า
หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ซึ่งมักเต็มไปด้วยเกลือ ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตและไขมันทรานส์สูงขึ้น
แอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้มีน้ำหนักเกินและเกิดโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
จากการศึกษาพบว่า การสูบบุหรี่ 5 มวนในแต่ละวัน ทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นถึง 12% การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยลดความเสี่ยงของคุณในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (หัวใจเต้นผิดปกติ) ตรวจดูให้แน่ใจว่าอาการของคุณได้รับการควบคุณอย่างดี นี่เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับทั้งโรคหลอดเลือดสมองเกิดตีบหรืออุดตันและหลอดเลือดสมองแตก เป็นปัจจัยเสี่ยงที่มากถึง 90% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด และคาดว่าการควบคุมความดันโลหิตที่ดีช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้มากถึง 40%
เพื่อรักษาความดันโลหิตของคุณให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านเป็นประจำ รวมถึงการเข้าใจความหมายของตัวเลขค่าความดันโลหิตที่ได้จะมีประโยชน์ โดยการอ่านค่าความดันโลหิตจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือค่าความดันโลหิตตัวบนเรียกว่าความดันโลหิตซิสโตลิก ซึ่งบ่งบอกถึงความดันเมื่อหัวใจเต้น ส่วนที่สองหรือค่าความดันโลหิตตัวล่าง คือความดันโลหิตไดแอสโตลิก ซึ่งบอกถึงความดันเมื่อหัวใจอยู่ระหว่างการเต้นหรืออยู่ในภาวะพัก ความดันนี้จะถูกวัดในหน่วยมิลลิเมตรปรอท (mm Hg)
ค่าความดันโลหิตปกติสำหรับผู้ใหญ่คือ 120/80 mm Hg หากค่าความดันตัวบนของคุณอยู่ระหว่าง 120 ถึง 139 mm Hg และค่าความดันตัวล่างยู่ระหว่าง 80 ถึง 89 mm Hg คุณจะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงปานกลางในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง หากค่าความตัวบนสูงกว่า 140 mm Hg หรือค่าความดันตัวล่างสูงกว่า 90 mm Hg คุณจะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ความดันโลหิตผันผวนตลอดทั้งวัน สำหรับบางคน ความดันเลือดจะสูงขึ้นเมื่อวัดในสถานพยาบาล ภาวะนี้เรียกว่า ความดันโลหิตสูงชั่วคราวเฉพาะที่โรงพยาบาลหรือคลินิก (White-coat hypertension) ดังนั้น จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก ที่จะรู้ค่าความดันโลหิตเฉลี่ยของคุณโดยการวัดความดันโลหิตที่บ้าน
ตรวจสอบอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) เป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุดและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง การหมั่นตรวจวัดที่บ้านเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวายได้
ตอนนี้ที่คุณรู้วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
เริ่มก้าวแรกของคุณด้วยการวัดความดันโลหิต
ตรวจสอบ เครื่องวัดความดันโลหิตจาก OMRON เพื่อสุขภาพหัวใจที่ดีของคุณ
SOURCES:
https://www.cdc.gov/vitalsigns/stroke/index.html
https://www.cdc.gov/stroke/prevention.htm
https://myhealth.alberta.ca/Health/Pages/conditions.aspx?hwid=hw223366
https://www.cdc.gov/stroke/prevention.htm
https://www.caringseniorservice.com/blog/preventing-strokes-through-blood-pressure-monitoring
Validated by: Alejandro F. Diaz, MD
Member, RUSH Stroke Team, UST FMS
Past Member, Stroke and Neuromuscular Council, Philippine Neurological Association’
Fellow, Philippine Neurological Association
Previous article โรคหลอดเลือดสมองรบกวนชีวิตประจำวันของคุณอย่างไรและสามารถป้องกันได้อย่างไร |
Next article |